วอเตอร์เครส (water cress) น่าสนใจ อย่างไร
จากผลงานการวิจัยของคณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยอิลินนอยส์ พบว่าวอเตอร์เครส เป็นผักต้านมะเร็งชนิดหนึ่ง
อุดมด้วยวิตามินเอและวิตามินซี ที่นิยมปลูกในไทยมีอยู่ 2 สายพันธุ์
ก็คือ พันธุ์สีเขียวและพันธุ์สีแดง โดยพันธุ์สีเขียวจะมีธาตุอาหารประเภทวิตามิน เอ
วิตามิน อี และวิตามิน ซี สูงกว่าในผักกาดธรรมดาถึง 2 เท่าตัวถ้าเทียบกับน้ำหนักที่เท่ากันแล้ว
วอเตอร์เครสมี วิตามิน ซี มากกว่าส้ม มีแคลเซียมมากกว่านมทุกชนิด
มีธาตุเหล็กสูงกว่าผักขม และยังประกอบด้วยสาร ไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanates) ซึงเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ที่จะเป็นอันตรายให้แก่ร่างกายที่จะเกิดกับอนุมูลอิสระ มีโพแทสเซียม น้ำมันมาส -ตาร์ด และมีไอโอดีน
เหมาะสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจและติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ บำรุงกระดูกและฟันพร้อมมีคุณสมบัติในการล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกายด้วย
ทางคณะได้เผยแพร่ข้อมูลทางการเกษตรผ่านทางอินเตอร์เนต
ว่า วอเตอร์เครส เป็นผักไม่มีโคเลสเตอร์รอลเลย ที่ดีมากคือ
ในฐานข้อมูลผักของเวกแมน บอกว่า วอเตอร์เครส ขนาดพอดีกินใน 1 มื้อ
คือราว 10 ยอดนั้น
ให้วิตามินเอ 1 ใน 4
ของที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันทีเดียว(ร่างกายต้องการ 800 ไมโครกรัม
เทียบหน่วย เรตินัล) ถ้าต้องการวิตามินเอจาก วอเตอร์เครส ให้ปรุงด้วยน้ำมัน
อาจเป็นการผัดด้วยไฟแรงอย่างรวดเร็วหรือเป็นซุปก็ปรุงเสร็จกินทันที
ร่างกายก็จะได้มีภูมิต้านทานที่ดี ลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งและบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอ
ส่วนวิตามินซี ในวอเตอร์เครส ราว 10 ยอดให้วิตามินซี
ร้อยละ15 ของร่างกายที่ต้องการใน 1 วัน
(1 วัน
เราต้องการ
60 มิลลิกรัม)
การวิเคราะห์นี้เป็นของอเมริกาโดยเผยแพร่ในฐานข้อมูลผักสดของเวกแมน
การนำมาประกอบอาหาร ได้วอเตอร์เครสมาแล้ว เด็ดก้านแข็งๆ
ออก ใช้ประกอบอาหารได้เลยไม่ว่าจะเป็นสลัด ผัดไฟแดง แกงจืด หรือรับประทานสดๆ
กับส้มตำ น้ำพริก หรือใช้ตกแต่งจานให้สีเขียวสวย รูปใบเล็กๆ ดูสดชื่น
กินเป็นผักสลัดกรอบ ให้วิตามินซี ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์
ที่เป็นตัวจับสารก่อมะเร็งธรรมชาติ ทำแซนวิช หรือ
ทำซุปก็ได้วิตามินเอ
ที่ร่างกายแปลงมาจากเบต้าแคโรทีนในวอเตอร์เครส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น